การ ตามล่าแสงเหนือ น่าจะอยู่ในลิสต์การเดินทางครั้งหนึ่งในชีวิตของใครหลายๆ คน เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่งมาก ออโรรา (Aurora) เป็นแสงเรืองรองสีแปลกๆ เป็นแถบสีต่างๆ บนท้องฟ้าในเวลากลางคืน เกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศของโลก ระดับความสูงเหนือพื้นดิน 100-300 เมตร ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายสี ทั้งสีเขียว ฟ้า ชมพู เหลือง และม่วง แต่สีที่เห็นได้บ่อยคือสีเขียวและเหลือง และวันนี้ globevisits จึงได้รวบรวมจุดชม Aurora จากทั่วโลกมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนกันค่ะ ไม่ว่าจะไกลแค่ไหนก็ต้องไปให้ถึง
#. Fairbanks Alaska
อยากชมได้อย่างง่าย ๆ ต้องแวะไปเช็คอิน แฟร์แบงค์ส กันนะคะ เป็นเมืองที่ใหญ่อันดับ 2 ของ รัฐอลาสก้า สหรัฐอเมริกา มีชื่อเสียงในเรื่องของแสงเหนืออันงดงาม สามารถเห็นได้ง่าย ๆ อยู่ในทั่วทุกมุมของรัฐนี้เลยค่ะ ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะอยู่ในเมือง หรือนอกเมืองก็สามารถเห็นได้เช่นกัน ช่วงเวลาดีที่สุดในการชมที่เมืองแฟร์แบงค์สคือ ระหว่างปลายเดือนสิงหาคม-ปลายเดือนเมษยน
#. เมือง Yellowknife ประเทศ Canada
แคนดาก็เป็นสวรรค์แห่งการชมแสงเหนือเช่นเดียวกัน ด้วยละติจูดเหนือและมีมลพิษทางแสงน้อย จุดชมในประเทศแคนาดาอยู่บริเวณรอบทะเลสาบ Prosperous ในเมืองเยลโลไนฟ์ นอกจากนี้ยังมีสถานที่อื่นๆ เช่น อุทยานแห่งชาติ Wood Buffalo และ Jasper ซึ่งช่วงเวลาในการไปชมอยู่ช่วงกลางเดือนสิงหาคมถึงปลายเดือนเมษายน เลยล่ะ
#. ยูคอน Yukon Canada
ดินแดนยูคอน อยู่ทางฝั่งตะวันตกของแคนาดาอันแสนเงียบสงบ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าอันกว้างใหญ่ รวมถึง ภูเขาโลแกน (Mount Logan) ยอดเขาสูงที่สุดในแคนาดา นอกจากจะเป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติแล้ว ยังเป็นดินแดนแสงเหนือแห่งแคนนาดาอีกหนึ่งแห่ง จุดชมออโรรายอดนิยมคือ Midnight Dome Viewpoint ในเมือง Dawson จุดชมวิวสามารถเห็น แม่น้ำยูคอน (Yukon River) และ หุบเขา Klondike Valley พร้อมกับความงามสาดส่องบนฟากฟ้า งดงามเกินบรรยาย ซึ่งสามารถชมได้ในระหว่างกลางเดือนสิงหาคม-กลางเดือนเมษายน
#. เมืองอิลลูลิแซท Ilulissat Greenland
อิลลูลิแซท เมืองใหญ่อันดับ 3 ของกรีนแลนด์ มีประชากรเพียง 5,000 คนเท่านั้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการอยากจะหลีกหนีจากความุ่นวาย นอกจากนี้รอบด้านยังเต็มไปด้วยธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ ท้องทะเลอันอุดมสมบูรณ์ กลุ่มอาคารและบ้านหลังเล็กๆ สีสันสดใสเท่านั้น ซึ่งซีซั่นในการชมออโรราได้ตั้งแต่เดือนกันยายน-เมษายน ใครชอบความเงียบสงบก็ไปเช็คอิน Ilulissat Greenland กันได้เลย
#. เมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์
เมืองทรุมเซอที่อยู่ทางตอนเหนือของนอร์เวย์ อีกกนึ่งพิกัดชมความงามของแสงเหนือ เมืองนี้อยู่ห่างขั้วโลกเหนือเพียง 217 ไมล์ ทำให้สามารถเห็นความงามได้อย่างตระการตาจากหมู่บ้าน Ersfjordbotn ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอเพียงแค่ 12 ไมล์ สามารถแวะไปดูได้ในช่วงกลางเดือนกันยายนถึงปลายเดือนมีนาคม
#. เมือง Murmansk ประเทศรัสเซีย
อยู่ใกล้กับ The Kola Peninsula ทางตอนเหนือของรัสเซีย เป็นอีกจุดที่มีโอกาสจะได้พบคือสูงมาก แต่อากาศหนาวจัดมากเช่นกัน เราจึงควรวางแผนและเตรียมตัวให้ดีสำหรับสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ เพราะแสงเหนือ Murmansk สวยงามไม่แพ้ที่อื่นเลยล่ะ แต่หากใครอยากจะไปท้าทายกับสภาพความเย็นจัดแบบนี้ก็สามารถไปได้เลย
#. หมู่เกาะโลโฟเทน Lofoten Islands
ตั้งอยู่ในมณฑล Nordland ทางตอนเหนือของ ประเทศนอร์เวย์ มีทั้งหมู่เกาะน้อย ใหญ่ล้อมรอบ มีหลักๆ อยู่ด้วยกัน 5 เกาะ ได้แก่ Austvågøy, Gimsøya, Vestvågøy, Flakstadøya, และ Moskenesøya มีความงดงามจึงทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ของนอร์เวย์ และเดินทางมาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าอยากชมความสวยของออโรราสุดมหัศจรรย์ล่ะก็ ต้องไม่พลาดสามารถเดินทางมาได้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม-กลางเดือนเมษายนค่ะ
#. อุทยานแห่งชาติอบิสโก Abisko National Park
อยู่ในเขต Swedish Lapland รายล้อมไปด้วยภูเขาอันกว้างใหญ่ ภายในอุทยานจะมีจุดให้ผู้คนได้เข้าไปชมแสงเหนือสวย ๆ ใน Abisko National Park ไม่เพียงเท่านี้ นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมกิจกรรมสุดเอ็กซ์สตรีมของสายลุยชอบความท้าทายไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า ปีนเขา เล่นสกีหิมะ และนั่งรถลากเลื่อนสุนัข แต่หากอยากชมออโรรา สามารถเดินทางมาดูได้ตั้งแต่ เดือนกันยายน-เมษายน
ตามล่าแสงเหนือ ในแต่ละสถานที่ มีความสวยงามแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศหลายคนเชื่อว่าเราต้องพกดวงไปด้วยถึงจะได้ชมความสวยงามจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินี้ได้ แต่ globevisits ขอแนะนำว่าก่อนจะเดินทางไปอยากให้ทุกท่านศึกษาและหาข้อมูลไปอย่างละเอียด ในพิกัดที่เราต้องการเดินทางไป ช่วงเวลาเหมาะสมที่จะเดินทาง พร้อมกับเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ สิ่งจำเป็นสำหรับการเดินทางจะดีกว่านะคะ