จากกระแสในช่วงนี้คนไทยเดินทางไปเที่ยวที่เกาหลีใต้ แล้วไม่ผ่าน ตม. กันเยอะมาก ซึ่งแต่ละคนโดนเรียกเข้าห้องเย็นบ้าง หรือโดนไล่กลับประเทศบ้าง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการคัดคนเข้าประเทศกันอย่างเข้มงวด และสำหรับในช่วงนี้ใครที่มีแพลนจะเดินทางไปเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ ในบทความนี้เราจะมาแนะนำทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ กับวิธีผ่าน ตม. เกาหลี ได้แบบง่าย ๆ จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกันค่ะ
วิธีผ่าน ตม. เกาหลี
1. วิธีผ่าน ตม.เกาหลี ต้องลงทะเบียน K-ETA ให้ถูกต้องครบถ้วน

จากแต่ก่อนเราเดินทางไปเที่ยวเกาหลี ต่อให้เดินทางไปเที่ยวคนเดียวหรือไปเป็นกรุ๊ปทัวร์ ก็สามารถเดินทางไปได้เลยค่ะ แต่หลังจากผ่านช่วงโควิด 19 เป็นต้นมา ทางภาครัฐของเกาหลีใต้ก็มีมาตรการที่รัดกุมมากยิ่งขึ้นสำหรับทุกคนที่เดินทางไปเกาหลี โดยจะต้องลงทะเบียน K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) หรือใบอนุญาตเข้าเกาหลีสำหรับคนต่างชาตินั่นเอง ซึ่งเราสามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเองที่เว็บไซต์ k-eta.go.kr หรือผ่านแอปฯ K-ETA ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนประมาณ 300 บาท

ส่วนภายในเว็บไซต์จะมีรายละเอียดวิธีในการกรอกต่าง ๆ ไว้เรียบร้อย รวมถึงยังมีคลิปวิดีโอประกอบทุกขั้นตอน โดยมีเอกสารที่ต้องใช้เพื่อเตรียมตัวก่อนลงทะเบียน ได้แก่
- รูปหน้าแรกของ Passport ที่ไม่หมดอายุ เป็นไฟล์ .jpeg .jpg .pdf หรือ .bmp ขนาดไม่เกิน 300kb
- รูปถ่ายหน้าตรงแนวตั้ง เห็นหน้าชัดเจน ไม่สวมหมวก แว่นตา
- ข้อมูลที่พักในเกาหลีใต้ ชื่อที่พัก ที่อยู่ของที่พัก และเบอร์ติดต่อ
- บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตสำหรับจ่ายค่าธรรมเนียม
และเมื่อคุณได้ลงทะเบียน K-ETA (รอทำการอนุมัติ) แล้ว ต่อมาในส่วนของลงทะเบียน Q-Code (ก่อนเดินทางไม่เกิน 3 วัน และกรอกทุกครั้งที่ไปเกาหลี) เป็นการลงทะเบียนเพื่อขอยกเว้นการกักตัวที่ประเทศเกาหลี ซึ่งถ้าใครไม่สะดวกจะไปกรอกแบบฟอร์มบนเครื่องบินก็ได้เช่นกัน สามารถลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ cov19ent.kdca.go.kr โดยใช้เอกสารลงทะเบียน Q-Code ได้แก่

- ข้อมูล Passport ของคนที่เดินทาง
- Email และเบอร์ติดต่อของคนที่เดินทาง
- ข้อมูลที่พักในเกาหลีใต้ ชื่อที่พัก ที่อยู่ของที่พัก และเบอร์ติดต่อ
สำหรับคนที่ลงล่วงหน้ามาแล้ว เมื่อถึงก็สามารถยื่น QR code ให้เจ้าหน้าที่ได้เลย เป็นการประหยัดเวลาไปในตัวนั่นเอค่ะ
นอกจากนี้การกรอก K-ETA นับว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับชาวต่างชาติ โดยไม่ต้องขอวีซ่า เพราะถ้าระบบ K-ETA ผ่าน สามารถบินด้วย K-ETA ได้เลย (สามารถใช้ได้ยาวถึง 2 ปี) และถ้าระบบไม่อนุมัติก็จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าแทน ทั้งนี้ ระยะเวลาในการพิจารณาจะอยู่ประมาณ 72 ชั่วโมง หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงเวลานั้น ๆ ดังนั้นในทุก ๆ หน้าของการกรอกจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ควรตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ให้ถูกต้องว่าสะกดถูกไหม ห้ามใส่ข้อมูลเท็จ และรูปภาพต่าง ๆ เหล่านี้มีผลต่อการพิจารณาทั้งสิ้น
2. เตรียมเอกสารเที่ยวเกาหลีมาให้พร้อมที่สุด

วิธีผ่าน ตม. เกาหลีใช่ว่าจะสิ้นสุดแค่ผลการอนุมัติ K-ETA เท่านั้น เราควรเตรียมเอกสารต่าง ๆ ไปด้วย เพราะเป็นหลักฐานยืนยันว่าเรามาเกาหลีด้วยวัตถุประสงค์นั้น ๆ ตามความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็น
หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เพื่อให้ ตม. เกาหลี มั่นใจว่าเรามาแล้วกลับจริง ๆ มีดังต่อไปนี้
- เอกสารการจองโรงแรมหรือที่พัก เพื่อยืนยันให้เห็นว่าเรามีที่พักเป็นหลักแหล่ง มีการจ่ายจริง จองจริง
- แพลนการท่องเที่ยว ไม่ต้องทำละเอียดมากก็ได้ เอาให้รู้ว่าแต่ละวันเรามีแผนไปไหน ทำอะไร อย่างน้อย ๆ ก็ให้รู้ว่าเรามาเที่ยวจริง ๆ
- เอกสารรับรองการทำงาน เป็นการยืนยันว่าแค่มาเที่ยว และมีงานทำที่ประเทศต้นทางที่มา หรือถ้าเป็นฟรีแลนซ์ก็ควรจะมีนามบัตรเพื่อแสดงว่าคุณเป็นใคร ทำอะไร ให้เจ้าหน้าที่ได้ทราบ
- เอกสารประกันการเดินทางและสุขภาพ เป็นหลักประกันว่าเราสามารถรับผิดชอบตัวเองได้ ถ้าต้องเจอกับอุบัติเหตุหรือเหตุสุดวิสัยที่อาจเกิดขึ้น
- หนังสือเดินทาง (Passport) ใครที่เพิ่งทำเล่มใหม่มาควรเอาหนังสือเดินทางเล่มเก่ามาเผื่อด้วย เพื่อยืนยันว่าเราเคยไปเที่ยวที่ไหนมาบ้างแล้ว
แต่สำหรับใครที่ไปกับทัวร์ หรือบริษัททัวร์ ส่วนใหญ่แล้วเขาจะจัดการเอกสารต่าง ๆ ให้เสร็จสรรพ ไม่ใช่แค่แผนเที่ยว แต่รวมไปถึงโรงแรม ร้านอาหาร หน้าที่ของเราคือเที่ยวตามแผนที่ทางทัวร์จัดไว้ให้ บางคนที่ไม่อยากยุ่งยากกับการเตรียมเอกสารต่าง ๆ ก็จะเลือกการไปเที่ยวกับกรุ๊ปทัวร์ เมื่อลองครั้งแรกคล่องตัวแล้ว เกิดติดใจอยากไปเที่ยวด้วยตัวเองดูก็จะได้ไม่ยาก
3. แต่งกายให้เหมาะสมและสุภาพเข้าไว้

อีกหนึ่งวิธีผ่าน ตม. เกาหลี ที่จะช่วยให้ผ่านได้ง่าย ๆ นั่นคือ การแต่งกายให้สุภาพที่ว่านี้ ไม่ใช่ว่าใส่สูทผูกไทมาเลยแต่ไกล แต่เป็นความเหมาะสมและสุภาพที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่เราไป ทั้งนี้ ดูด้วยว่าสภาพอากาศช่วงนั้นของเกาหลีเป็นยังไง เน้นแต่งด้วยชุดเรียบง่าย ผู้หญิงก็ไม่ควรแต่งโป๊จนเกินไป ผู้ชายก็แต่งสุภาพปกติ ใส่รองเท้าผ้าใบ พูดง่าย ๆ ว่าในเมื่อเราไปเที่ยว ก็ควรแต่งให้ดูเป็นนักท่องเที่ยวมากที่สุด เพราะการแต่งกายจะเป็นเหมือนปราการด่านแรกที่เจ้าหน้าที่ ตม. เกาหลี เห็นและพิจารณาตามขั้นตอนต่าง ๆ ต่อไป
4. เตรียมตัวตอบคำถาม ตม. เกาหลี

อีกหนึ่งวิธีผ่าน ตม. เกาหลี ที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เมื่อเข้าประเทศ นั่นคือ การตอบคำถาม ตม. เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าบางคน ตม. เกาหลี ไม่ถามเลยสักคำถามก็สามารถผ่านเข้าได้ปกติ หรือบางคนก็โดนซักจนเข้าห้องเย็นเป็นชั่วโมง ๆ ก็มีมาแล้ว แต่จะเป็นกรณีไหนก็แล้วแต่ การเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมสำหรับการตอบคำถามก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ
แต่โดยส่วนใหญ่แล้วทางเจ้าหน้าที่ ตม. เกาหลี จะสื่อสารภาษาอังกฤษได้บ้าง ถ้ามั่นใจในการสื่อสารภาษาอังกฤษของตัวเองก็พยายามสื่อสารไปเลย แต่จำไว้ว่าถ้าพูดภาษาเกาหลีไม่ได้ไม่ควรพูด เพราะถ้า ตม. เกาหลี เกิดยิงคำถามอื่น ๆ มาอีก เดี๋ยวจะเกิดอาการอึ้งแล้วไปต่อไม่ถูก จะเสี่ยงต่อการติด ตม. มากกว่าเดิม
5. เอาสัมภาระไปให้พอเหมาะ

อีกหนึ่งวิธีผ่าน ตม. เกาหลี ง่าย ๆ ต้องบอกเลยว่าสัมภาระก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญ โดยสัมภาระควรมีขนาดพอเหมาะ ไม่มากไปหรือน้อยเกินไป ว่าง่าย ๆ คือสอดคล้องกับจำนวนวันที่เราพำนักในเกาหลี ไม่ใช่ว่ามาอาทิตย์นึงแต่มีกระเป๋าสะพายมาแค่ใบเดียว รวมถึงแลกเงินวอนติดตัวไปด้วยก็ดี อย่าไปกองรวมไว้ที่คนใดคนหนึ่ง (ในกรณีที่ไปด้วยกันหลายคน) เผื่อในกรณีที่ ตม. เกาหลี ถามว่ามีเงินติดตัวมาเท่าไรจะได้ชี้แจงได้ถูก รวมถึงบัตรเครดิต บัตรเดบิตต่าง ๆ ก็เตรียมไปให้พร้อมด้วยเช่นกัน
สามารถติดตามข่าวสารดีๆ และที่เที่ยวเด็ดๆ กันได้ที่ globevisits
- 10 ที่เที่ยวจีน 2024 ไปสัมมผัสหิมะ ได้ฟีลเหมือนยุโรป แต่ไม่ต้องจ่ายแพง - August 2, 2024
- คนไทยเที่ยวอินเดีย ฟรี! ค่าธรรมเนียมวีซ่า e-tourist visa - July 12, 2024
- เตรียมปักหมุด 8 สวนสนุก ญี่ปุ่น สนุกสุดมันส์ได้ทั้งครอบครัว - July 8, 2024