เกาะเชจู เป็นอีกหนึ่งเกาะใหญ่ที่สุดใน เกาหลีใต้ และยังเป็นแหล่งของ มรดกโลก รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ สวยๆ มากมาย ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเมื่อไปถึง แต่ก่อนออกเดินทาง อยากจะพานักเดินทางทุกคนไปทำความเข้าใจกับ 8 ข้อควรรู้ก่อน เที่ยวเกาะเชจู เพื่อเป็นการเตรียมตัวให้พร้อม จะได้ทัวร์กันอย่างสนุกสนาน และสบายใจหายห่วงตลอดออกทริปกันจ้า
ทำความรู้จักกับ เกาะเชจู

เกาะเชจู (Jeju Island 제주특별자치도) เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน ประเทศเกาหลีใต้ เป็นเกาะที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหลายล้านปีก่อน ทำให้ปัจจุบันยังมีปากปล่องภูเขาไฟหลายแห่งที่ดับสนิทลงแล้วหลงเหลือให้เราได้ชมกัน Jeju Island นั้นจะแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ นั่นก็คือ เมืองเชจู (Jeju City) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเชจู และ เมืองซอกวีโพ (Seogwipo) ครอบคลุมพื้นที่ทางตอนใต้ของเกาะทั้งหมด อีกทั้งยังเป็นแหล่งของที่พักและสถานที่เที่ยวมากมาย รายล้อมไปด้วยทะเล
เมืองนี้ก็มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติค่อนข้างหลากหลาย และอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน (Hallasan National Park) และ ยอดเขาซองซาน อิลชุลบง (Seongsan Ilchulbong) หรือรู้จักดีกันในชื่อ Sunrise Peak ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติด้วยค่ะ
ข้อควรรู้ก่อนตะลอนทัวร์ Jeju Island เกาหลีใต้
1. เอกสารในการเดินทาง

การเตรียมเอกสารการเดินทางที่จำเป็นให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น พาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เอกสารการจองโรงแรม นั่นเป็นสิ่งสำคัญในการเดินทางไปยังต่างประเทศเป็นอย่างมาก สำหรับประเทศเกาหลีใต้นั้น แม้คนไทยจะสามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่จะต้องลงทะเบียนผ่านระบบ K-ETA (Electronic Travel Authorization) ล่วงหน้าให้เรียบร้อยก่อนเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้
2. การเดินทางบนเกาะเชจู

การเดินทางไปยังเกาะเชจูง่ายที่สุดก็คือการนั่งเครื่องบินจากกรุงโซลไปยัง Jeju Island โดยตรงเลยค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาทีเท่านั้น ส่วนการเดินทางในเมืองนั้นสามารถเลือกได้ว่าจะเช่ารถยนต์ขับ นั่งรถบัส หรือ นั่งรถแท็กซี่ สำหรับใครสามารถขับรถได้ และทำใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ (International Driving Permit) หรือ ใบขับขี่สากล มาแล้ว แนะนำให้เช่ารถขับจะสะดวกและประหยัดเวลาที่สุดค่ะ แต่สำหรับใครต้องการเดินทางแบบรบประหยัดก็สามารถเลือกโดยสารด้วยบัส ซึ่งจะมีบัสประจำทางสายต่างๆ ประจำอยู่ทั่วเกาะ หรือสามารถเรียกแท็กซี่ได้จาก KakaoTaxi แอปฯ เรียกแท็กซี่ของ Korea นั่นเองค่ะ
3. โรงแรมหรือห้องพักบนเกาะเชจู เกาหลีใต้

ขึ้นชื่อว่าเป็นที่พักตากอากาศชื่อดังของเกาหลีใต้ ยังไงก็ต้องมีโรงแรม รีสอร์ท แบบหลากหลายประเภทให้เลือกสรรอย่างแน่นอน ซึ่ง เมืองเชจู และ ซอกวีโพ ก็มักจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ของนักเดินทาง เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของเกาะ อีกทั้งยังมีโรงแรมและรีสอร์ทมากมายให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นพักในตัวเมือง หรือติดทะเลบรรยากาศดีๆ รวมไปถึงที่พักท่ามกลางธรรมชาติก็ตาม สามารถเลือกเช็คอินได้ตามใจชอบเลย
4. ฤดูกาลในเกาะเชจู

แม้ผู้คนจะนิยมไป Jeju Island ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อน แต่ความจริงแล้วเราสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ เพราะแต่ละฤดูก็จะมีเสน่ห์แตกต่างกันออกไป ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 4 ฤดู ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และ ฤดูหนาว แต่ถ้าเดินทางในช่วงฤดูใบไม้ผลิระหว่างปลายเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เราจะได้เห็น ทุ่งดอกคาโนล่า (Canola) สีเหลืองอ่อนบานทั่วทุ่ง รวมถึง ดอกซากุระ หรือคน Korea เรียกกันว่า พ็อตกต จะบานในช่วงเดือนเมษายนด้วยเช่นกันค่ะ แถมอากาศไม่ถึงกับร้อนหรือหนาวมากจนเกินไป อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10-20 องศาเซลเซียสค่ะ
5. อาหารบนเกาะเชจู

สิ่งแรกที่ต้องลองเลยก็คือ อาหารทะเล ปลาดิบสดๆ โจ๊กเป๋าฮื้อ และ หมูดำ เรียกว่าเป็นเมนูขึ้นชื่อของเมืองเค้าเลยค่ะ ไม่เพียงเท่านี้ยังมีไร่ชาชื่อดังอย่าง ไร่ชาโซุลลอค (O’Sulloc Tea Garden & Museum) ที่คนเลิฟชาเขียวต้องไม่พลาด รวมถึง ส้มฮัลลาบง (Hallabong) ส้มสายพันธุ์เฉพาะบน Jeju Island มีขนาดใหญ่และรสหวานมากกว่าส้มทั่วไป น่าลองมากๆ
6. แอปฯ แผนที่ในการเดินทาง

ต้องบอกก่อนเลยว่าแอปฯ แผนที่ ที่เราใช้กันประจำอย่าง Google Maps นั้นไม่สามารถใช้ได้ในประเทศเกาหลีใต้นะคะ เนื่องจากความปลอดภัยทางการเมืองและทางทหาร เราจึงต้องใช้ KakaoMap และ Naver Map แทนค่ะ ซึ่งเป็นแอปฯ แผนที่ของเกาหลีใต้ในการค้นหาสถานที่ต่างๆ แทนนั่นเองค่ะ
7. การสื่อสารใช้ภาษาเกาหลีเป็นหลัก

ก่อนไปเที่ยว Jeju Island แนะนำให้ทุกคนฝึกภาษา Korea แบบพื้นฐานมาสักหน่อยค่ะ เพราะส่วนใหญ่แล้วคนท้องถิ่นจะใช้ภาษาพื้นเมืองเป็นหลัก แม้พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ตามสถานที่สำคัญต่างๆ จะพอใช้ภาษาอังกฤษได้บ้าง แต่หากได้รู้ภาษาบ้านเค้าแบบพื้นฐานไปก่อนก็จะทำให้การเดินทาง และถามทางสะดวกขึ้นมากๆ เลยล่ะ อย่าลืมไปฝึกอันยองฮาเซโยกันไว้นะ
8. แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่หลากหลาย

หลายคนคงทราบกันดีว่าเกาะชจูเป็นแหล่งมรดกโลกเกาะเชจูจึงมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแบบนับไม่ถ้วนเลยค่ะ แถมยังสามารถอนุรักษ์สภาพป่าเขาให้ยังคงอุดมสมบูรณ์มาจนถึงทุกวันนี้ นอกจาก อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน และ ยอดเขาซองซาน อิลชุลบง ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว ภายในเกาะก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอื่นๆ ที่น่าสนใจมากมาย เช่น น้ำตกชอนเจยอน (Cheonjeyeon Waterfall) น้ำตกจองบัง (Jeongbang Waterfall) ถ้ำลาวามานจังกุล (Manjanggul Cave) โขดหินจูซังจอลรีแด (Daepo Jusangjeolli Cliff) และ อ่าวซอพจีโกจี (Seopjigoji) เป็นต้น เรียกได้ว่าไปอยู่ 1 เดือนก็เก็บไม่ครบกันเลยล่ะ
อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ทาง globevisits